ปวดท้อง
“...อดใจไม่ไหวเมื่อได้พบหน้า ยิ่งเธอส่งยิ้มคืนมายังหวั่นไหว...” ระหว่างที่เราเดินไปที่โรงจอดรถมอเตอไซค์ เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของคีก็ดังขึ้น
“ครับ”
“...”
“ไม่มีไรว่ะพี่ ไอ้นั่นมันอ่อน ทำกร่างไปงั้นแหละ”
“...”
“อือ จะกลับแล้ว” แล้วคีก็วางสายไปครับ มันขึ้นคร่อมมอไซค์ ส่องกระจกหน้ารถแล้วลูบขอบปากด้านขวาที่เริ่มกลายเป็นสีม่วง ส่วนฟิวกับจอมก็จูงรถมาข้างๆคี
“งั้นน้ำกลับก่อนนะ” ผมเองก็คิดว่าควรกลับได้ซักที หลังจากผ่านสถานการณ์เครียดๆในวันนี้ ผมเริ่มรู้สึกปวดท้องแล้วสิ อ่า รู้สึกแย่จริงๆเลย เวลามีเรื่องเครียดทีไรปวดท้องทุกที
“น้ำ กลับยังไง” คีเลิกส่องกระจกแล้วหันมาถามผม
“นั่งรถกลับเอง” ผมไม่ชอบขับมอไซค์เลย เพราะขับทีไร ผมจะไม่ค่อยมีสติ คือผมเป็นคนชอบคิดอะไรไปเรื่อยๆหน่ะครับ เวลาขับเลยเกือบชนชาวบ้านเค้าทุกที
“เดี๋ยวคีไปส่ง พี่ธารก็อยู่บ้านคี เดี๋ยวตอนเย็นค่อยกลับพร้อมพี่ธาร” พี่ธารคือพี่สาวของผมเอง
“อื้อ” ผมรับปากพร้อมกับเดินไปซ้อนท้าย รถมอไซค์ของคีค่อนข้างสูงถ้าเทียบกับช่วงขาการก้าวของผม คีขับ Honda CBR 250Rสีแดง แถมเบาะนั่งยังทำให้ปวดตูดอีกต่างหาก
“คี ทำไมไม่ซื้อไอ้ที่มันนั่งสบายกว่านี้เนี่ย”
“เอ๊า ถ้านั่งสบายก็ไม่ใช่รถคีดิ” คีตอบพร้อมหัวเราะ “ส่วนมาก ก็ไม่มีใครซ้อนท้ายหรอก”
“เป็นเกียรติมากเลยที่ได้ซ้อนรถคีเนี่ย” ผมประชดกลับไปหน้างอ โอย ปวดท้อง ปวดตูด
“คี เดี๋ยวพวกกูก็จะไปบ้านมึงเหมือนกัน เล่ามาให้หมดว่าตกลงเรื่องวันนี้มันเป็นไงมาไง” ฟิวบอกคีก่อนที่มันกับจอมจะบิดมอไซค์นำหน้าไปก่อน คีใส่หมวกกันน็อคแล้วขับตามไป
ระหว่างทาง ผมเริ่มปวดท้องมากขึ้นเรื่อยๆ เวียนหัวและรู้สึกอยากอ้วก ผมใช้มือซ้ายกุมท้องและเริ่มงอตัว มือขวาจับไหล่คีไว้ มือผมชื้นเหงื่อจนเปียกไปหมด พอติดไฟแดง คีคงรู้สึกว่าไหล่ข้างที่ผมจับอยู่ชื้นเหงื่อ และตอนเบรก ผมที่งอตัวอยู่เอาหัวไปโขกกับหลังคีเข้า เจ้าตัวเค้าเลยหันหน้ามามองผม เปิดกระจกหมวกันน็อคขึ้นแล้วถามผมด้วยท่าทางตกใจ
“เฮ้ย น้ำ เป็นอะไรอ่ะ”
“ปวดท้อง แต่เดี๋ยวกินยาก็หาย รีบขับกลับบ้านเหอะ”
“ฟิว จอม ขับเร็วๆหน่อย น้ำปวดท้อง” คีพูดจบก็ไฟเขียวพอดี
พอขับถึงบ้าน ผมลงก้าวลงรถแบบเซๆ ยืนตัวงอกุมท้องไปด้วย ฟิวจอดรถและรีบเดินเข้ามาหาผม
“น้ำ เดินไหวรึป่าว”
“ไหวสิ” ผมเดินเข้าบ้านของคีแล้วรีบเดินตรงไปห้องครัว ผมรินน้ำใส่แก้วและค้นยาในกระเป๋า ผมกินยา ดื่มน้ำตาม แล้วเอามือสองข้างกุมท้อง นั่งเก้าอีในห้องกินข้าว หัวทิ้งดิ่งเกยบนโต๊ะอย่างหมดแรง ผมรู้สึกปวดท้องมากจริงๆ แถมเวียนหัวอยากอ้วก รู้สึกได้เลยว่าริมฝีปากเริ่มแห้ง
ฟิวกับจอมเดินมานั่งเก้าอี้ข้างๆ ผมหลับตาลงหวังให้อาการเจ็บบรรเทา
“น้ำ น้ำ ไหวรึป่าว” ฟิว แตะแขนผมถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“หน้าซีดมากเลย” จอมจ้องหน้าผมพร้อมกับพูดขึ้น
ซักพักผมก็ได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาในห้องครัว
“น้ำ ขึ้นไปนอนพักบนห้องก่อนเถอะ” ผมเองก็คิดว่าถ้านอนบนเตียงคงสบายตัวกว่านี้ ได้หลับซักตื่นก็คงจะดีขึ้น
ผมค่อยๆเดินลากสังขารขึ้นบันไดไปบนห้องของคี ปวดจนน้ำตาคลอเบ้า เริ่มปวดหัวและอยากอ้วกมากขึ้นเรื่อยๆ ผมล้มตัวลงนอนบนเตียงของคี นอนตะแคงข้าง หลับตาและกัดริมฝีปากแน่น
“น้ำ ถ้าไม่ไหวบอกนะ ไปโรงบาลกัน” จอมเอ่ยขึ้น
ผมไม่ตอบแต่พยักหน้ารับ พอลืมตาก็เห็นแต่ละคนนั่งจ้องผมอยู่ ฟิวนั่งเท้าแขน จอมนั่งไขว่ห้างตรงเก้าอี้หน้าโต๊ะคอม และคีที่นั่งปรับสายกีตาร์อยู่ตรงปลายเตียง ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่และบิดตัวไปมา คีวางกีตาร์เดินมาที่หัวเตียงแล้วหยิบตุ๊กตาหน้าตาประหลาดยื่นให้ผม
“กอดตัวนี้ไว้ เดี๋ยวก็หาย” ใครเห็นก็คงไม่อยากเชื่อว่าคนอย่างอัคคี จะมีตุ๊กตาอยู่เต็มหัวเตียง คีชอบตุ๊กตามากครับ ผมจำได้ว่า พราวสาวน้อยแฟนคนล่าสุดของคีเคยให้ตุ๊กตาหมีพู ตอนได้คีกอดตุ๊กตาท่าทางดีใจมาก แต่บอกตรงๆ ผมว่ายังไงก็ไม่เข้ากันซักนิด
ผมรับตุ๊กตามากอดและมองสำรวจ มองไม่ค่อยออกว่ามันเป็นตัวอะไร ตัวมันคล้ายๆหนู แต่ไม่มีหาง แถมตัวโตด้วย
“มันชื่ออะไร” ผมเป็นประเภทชอบตั้งชื่อให้กับของใช้หรืออะไรที่รู้สึกถูกใจเป็นพิเศษหน่ะครับ แล้วเจ้าตัวนี้ก็น่ารักมากๆ
“หืม ไม่มีชื่อหรอก”
“จอมๆ จอมว่านี่มันตัวอะไร”
“หมามั้ง” จอมที่หันไปเล่นคอม หันกลับมามองตุ๊กตาในอ้อมแขนของผมแล้วตอบ
“จะเป็นหมาได้ไงอ่ะ ขาเล็กนิดเดียว น้ำว่าเป็นหนูนะ” จอมไม่สนใจคำแย้งของผมเท่าไหร่ หันกลับไปเล่นคอมต่อ ผมจึงหันไปสบตากับฟิวที่มองผมยิ้มๆ
“ฟิวล่ะ คิดว่ามันเป็นตัวอะไร ช่วยน้ำตั้งชื่อให้มันหน่อยสิ”
“ไม่รู้สิ หมาผสมหนูมั้ง ให้มันชื่อว่าผสมดีมั้ยล่ะ”
“ดีจัง ชื่อน้องผสมก็แล้วกันนะ” ผมอดยิ้มให้เจ้าผสมไม่ได้ แกมันน่ารักจริงๆเลย ขอจุ๊บทีดิ๊ ผมจุ๊บปากเจ้าผสมแล้วยิ้มให้มัน
“ปัญญาอ่อนว่ะน้ำ” ฟิวว่าแล้วหัวเราะใส่ผม
คีเริ่มดีดกีตาร์ ผมนอนฟังได้สักครู่ก็รู้สึกว่ามีน้ำขมๆจุกขึ้นมาในลำคอ ผมดีดตัวขึ้นนั่ง มองหน้าฟิว
“ฟิว อยากอ้วก” พูดจบผมก็ปิดปากรีบลุกขึ้นวิ่งไปห้องน้ำ ผมทรุดนั่งหน้าชักโครกพร้อมกับอ้วกออกมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ฟิวรีบวิ่งตามมาลูบหลังให้ผม ซักพักผมจึงกดโถ ลุกขึ้นบ้วนปากและใช้กระดาษทิชชู่เช็ดปาก รู้สึกแสบคอแสบจมูกไปหมดเลยครับ แต่ก็ดีกว่าที่ปวดท้อง ปวดหัว พร้อมกับพะอืดพะอมแบบเมื่อกี้แหละ
“หมดสภาพเลยเพื่อนกู” จอมทักผมทันทีที่ก้าวออกมาจากห้องน้ำ
“แต่หน้าตาดูดีขึ้นแล้วนะ ตะกี้หน้าซีดหยั่งกะกระดาษ” ฟิวทักขึ้นบ้าง
“อือ น้ำก็รู้สึกว่าหายแล้วล่ะ” ผมตอบพร้อมกับเดินมานั่งยิ้มให้ทั้งสามคนบนเตียง หยิบเจ้าผสมมาวางไว้บนตัก หันไปมองเจ้าของน้องผสมก็เห็นดีดกีตาร์หน้านิ่งอยู่เหมือนเดิม
จบแล้วค่ะ
ปล. ไว้จะนำนิยายเรื่องสั้นๆมาให้อ่านอีกนะคะ^^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น